ใครที่รู้ตัวว่าอยากผอม อยากลดน้ำหนัก แต่ยังหยุดกินไม่ได้สักทีหรือกินเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกอิ่ม วันนี้ Wongnai Beauty มีวิธีลดน้ำหนักอีกหนึ่งรูปแบบมาแนะนำค่ะ นั่นก็คือการใช้บอลลูนลดน้ำหนัก แต่บอลลูนที่ว่าจะเป็นอย่างไรนั้น มาติดตามกัน
เพื่อไขข้อข้องใจว่าบอลลูนลดน้ำหนักคืออะไร แล้วช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม เราขอมาปรึกษาคุณหมอให้แน่ใจก่อนตัดสินใจทำค่ะ โดยวันนี้เราอยู่กันที่ ลอร่าคลินิก
ซึ่งคนที่มาให้คำปรึกษาคือคุณหมอโจ หรือ นพ.อัครวุฒิ จันทราพิรัตน์ คุณหมอเล่าให้ฟังว่าโดยปกติวิธีปรับขนาดกระเพาะมี 2 วิธี คือการผ่าตัดกระเพาะอาหารออกบางส่วนและอีกวิธีคือการใส่บอลลูนลดน้ำหนัก ซึ่งวิธีที่สองจะได้รับความนิยมมากกว่า เพราะไม่เจ็บปวดเหมือนตอนผ่าตัด และแทบไม่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นเลยค่ะ
บอลลูนลดน้ำหนักคืออะไร ?
คือการใส่บอลลูนเข้าไปเพื่อลดขนาดพื้นที่ในกระเพาะอาหาร เมื่อพื้นที่ในกระเพาะอาหารถูกลดลง เวลาทานอาหารจะทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้น และไม่รู้สึกหิวบ่อย ๆ ตัวบอลลูนทำมาจากซิลิโคนแบบหนา ไม่สามารถถูกย่อยได้ และทนต่อความเป็นกรด
ข้อดีของบอลลูนลดน้ำหนัก
1. สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 24 กิโลกรัมใน 1 ปี
2. ไม่ต้องพักฟื้นนาน เหมือนผ่าตัดกระเพาะ
3. ไม่รู้สึกเจ็บ
4. ไม่มีแผลเป็น
5. หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ
วิธีการทำงานของบอลลูนในกระเพาะอาหาร
|
|
เริ่มใส่บอลลูน โดยการสอดกล้อ |
วางบอลลูนในตำแหน่งที่เหมาะสม |
|
|
เติมของเหลวใส่ให้บอลลูนพอง |
เมื่อได้ขนาดบอลลูนที่ต้องการ |
คุณหมออธิบายว่า ตัวบอลลูนจะถูกใส่เข้าไปในกระเพาะ โดยใช้วิธีการเดียวกับการส่องกล้องค่ะ เมื่อตัวบอลลูนอยู่ในกระเพาะของเราแล้ว หลังจากนั้นคุณหมอก็จะเติมน้ำกับเมธิลีนบลูให้บอลลูนขยายตัว พองขึ้นเหมือนลูกโป่งที่ใส่น้ำค่ะ เมื่อใส่แล้วพื้นที่กระเพาะอาหารก็จะลดลง โดยตัวบอลลูนนี้จะอยู่ได้ 1 ปี
บางคนแอบมีความกังวลว่าถ้าบอลลูนเกิดรั่วจะเป็นอะไรไหม คุณหมอบอกว่า มีโอกาสน้อยมากที่บอลลูนจะรั่ว หรือถ้ารั่วสามารถเช็กได้ง่าย ๆ คือปัสสาวะจะเป็นสีฟ้า เพราะเป็นสีของเมธิลีนบลูที่ใส่เข้าไปในบอลลูน แต่ไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ถ้าหากมีอาการดังกล่าว ให้รีบมาพบหมอเพื่อมาเช็กดูกันอีกทีค่ะ สำหรับใครที่สนใจอยากทานอาหารให้อิ่มเร็ว ๆ ไม่ต้องหิวบ่อย สามารถเข้าไปพูดคุยติดต่อรายละเอียดได้ที่ ลอร่าคลินิกเลยค่ะ